นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทญี่ปุ่นในเดือนกันยายน ปี 2560 เราได้พยายามเปิดตลาดขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างแข็งขันมาโดยตลอด (อาทิเช่น สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า บริการให้คำปรึกษาต่างๆ ฯลฯ) โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ รวมถึง อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และบริการทางการแพทย์ พร้อมทั้งร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ในพื้นที่
หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัส
โควิด-19 ทำให้โอกาสในการขยายธุรกิจด้านสุขภาพในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น เช่น อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ฟื้นตัว ประชาชนมีความตระหนักเรื่องสุขภาพมากขึ้น และองค์กรต่างๆหันมาส่งเสริมการบริหารจัดการสุขภาพภายในองค์กร นอกจากนี้โอกาสธุรกิจสำหรับบริษัทญี่ปุ่นในการขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยังมีอยู่จำกัดเฉพาะที่ เราจึงมุ่งมั่นที่จะสนับสุนนการขยายธุรกิจของบริษัทญี่ปุ่นให้เติบโตยิ่งๆขึ้นไป
ด้วยภูมิหลังเหล่านี้ เราจึงได้ก่อตั้งบริษัทสาขาย่อยในประเทศไทยขึ้น เพื่อร่วมมือกับสถาบันการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับความท้ายทายเชิงสุขภาพในองค์กร สถาบันการศึกษา และกลุ่มชุมชนในประเทศที่กำลังพัฒนา
CEO
โทโมยูกิ โทมินากะ
ชื่อบริษัท | บริษัท คลิป ทิป (ประเทศไทย) จำกัด |
วันที่ก่อตั้ง | 4 มกราคม 2567 |
ทุนจดทะเบียน | 2,000,000 บาท |
ผู้แทน | โทโมยูกิ โทมินากะ, CEO และ คุณกรกมล โตทับเที่ยง, Director |
ที่ตั้ง | เลขที่ 252/115 อาคารเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ ชั้น 22 อาคารบี ยูนิต 2213 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 ประเทศไทย |
การประกอบธุรกิจ
บริการส่งเสริมสุขภาพ ธุรกิจค้าปลีกและ
ค้าส่ง เอาท์ซอสกระบวนการธุรกิจ
บริษัทสาขาย่อยในไทยของเราจะค่อยๆเปิดให้บริการสนับสนุนด้านสุขภาพ “DocTip” ซึ่งได้รับคัดเลือกจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ในโครงการส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจสุขภาพระหว่างประเทศ
ในปีงบประมาณ 2565 บริการนี้มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นองค์กรบริษัท สถาบันการศึกษา หน่วยงานท้องถิ่น และผู้มีรายได้สูง แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับการออกแบบมาให้เชื่อมโยงกับบริการทางการแพทย์อื่นๆ ทำให้สามารถใช้บริการทางการแพทย์ซึ่งได้รับการพิสูจน์จากญี่ปุ่นแล้วว่าได้ผลได้อีกด้วย
นอกจากนี้บริษัทสาขาย่อยในไทยจะรับผิดชอบการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพและสินค้ากลุ่มWellnessจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆทั่วโลก รวมถึงการได้รับใบอนุญาตของสินค้าบางกลุ่ม และขยายโอกาสทางการตลาดผ่านกิจกรรมการตลาด ส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับบริษัทคู่ค้าในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดไทย ทำให้กระจายสินค้าได้รวดเร็วและแพร่หลาย